การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการผ่านสื่อคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย ด้วยวิธีเรียนแบบแข่งขันกับวิธีเรียนแบบร่วมมือ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
- 1. สถาบัน
มหาวิทยาลัยศิลปากร
- 2. ชื่องานวิจัย
การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการผ่านสื่อคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย ด้วยวิธีเรียนแบบแข่งขันกับวิธีเรียนแบบร่วมมือ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
- 3. ปีที่จัดพิมพ์
ปีการศึกษา 2551
- 4. ผู้วิจัย
นางสาววรรณี โคพิชัย
- 5. วัตถุประสงค์
5.1. พัฒนาสื่อคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง สมการ ชั้นมัธยมศึกษาที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพ
5.2. เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง สมการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยวิธีแบบแข่งขันกับวิธีแบบร่วมมือ ที่ได้รับการเรียนผ่านสื่อคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย
5.3. ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อสื่อคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียที่เรียนด้วยวิธีเรียนแบบแข่งขันและวิธีเรียนแบบร่วมมือ
- 6. ขอบเขตของการวิจัย
6.1 เนื้อหาในการวิจัยในครั้งนี้ ใช้เนื้อหาจากแบบเรียนวิชาคณิตศาสตร์ (ค31101) เรื่องสมการ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ช่วงชั้นที่ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งมีเนื้อหาการเรียนการสอนตามที่ได้กำหนดไว้ในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544
6.2 กลุ่มประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนนครนายกวิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2551 จำนวน 60 คน จาก 2 ห้องเรียน ห้องเรียนละ 30 คน โดยให้ห้องที่ 1 เป็นกลุ่มทดลองเรียนแบบแข่งขัน และห้องที่ 2 เป็นกลุ่มทดลองเรียนแบบร่วมมือ
- 7. ระเบียบวิธีวิจัย
7.1 การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research Design) โดยใช้รูปแบบ Randomized control-group posttest only design โดยมีกลุ่มทดลอง 2 กลุ่ม ทั้งสองกลุ่มมีจำนวนเท่ากัน คือกลุ่มละ 30 คน
7.2 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ สื่อคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบสอบถามวัดความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อสื่อคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย
7.3 วิธีการดำเนินการวิจัย มีการทดลองกับนักเรียน 2 กลุ่มโดยกลุ่มที่ 1 ใช้วิธีเรียนแบบแข่งขันผ่านสื่อคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย และกลุ่มที่ 2 เรียนด้วยวิธีเรียนแบบร่วมมือผ่านสื่อคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย
7.4 การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลมีดังนี้
7.4.1 หาค่าสถิติพื้นฐานของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้ค่าเฉลี่ยของผลการเรียนรู้
7.4.2 การวิเคราะห์ความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา
7.4.3 หาค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนน
7.4.4 การหาค่าความยากง่าย (p)
7.4.5 การหาค่าอำนาจจำแนก (r)
7.4.6 การหาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสองวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
7.4.7 การหาประสิทธิภาพของสื่อมัลติมีเดีย
7.4.8 ทดสอบความแตกต่างของคะแนนวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
- 8. ผลการวิจัย
8.1 สื่อคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย กลุ่มสาระการเรียนรุ้คณิตศาสตร์ เรื่อง สมการ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 77.22/ 76.11 สูงกว่าเกณฑ์ 75/ 75
8.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของกลุ่มที่เรียนโดยวิธีเรียนแบบร่วมมือผ่านสื่อคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สูงกว่ากลุ่มที่เรียนโดยวิธีเรียนแบบแข่งขันผ่านสื่อคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5
8.3 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อสื่อคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง สมการ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับมาก
- 9. ข้อเสนอแนะ
9.1 ควรทดลองเปรียบเทียบวิธีสอนโดยการเรียนแบบร่วมมือกัน กับวิธีสอนโดยการเรียนแบบอื่นๆ เช่น STAD jigsaw, Jigsaw II, Team GramesTournament, team Assisted Individualization เป็นต้น
9.2 ควรมีการศึกษาตัวแปรอื่นๆ นอกจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความพึงพอใจต่อการเรียนแบบร่วมมือกัน เช่น ความรับผิดชอบ, ความภาคภูมิใจในตัวเอง เป็นต้น
9.3 ควรมีการวิจัยเพื่อศึกษาเกี่ยวกับตัวแปรด้านความคงทนในการเรียนรู้ทักษะที่สอนโดยการเรียนแบบร่วมมือกัน